เกตหิมะเมาส์

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2561

กระบวนการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน


กระบวนการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
             ในช่วง ทศวรรษที่ผ่านมา นักการศึกษาไทยได้พยายามที่จะเสนอ แนวคิดเพื่อการพัฒนาการศึกษาและการเรียนการสอนของไทยตลอดมา แต่เริ่มได้รับการตอบรับจากสังคมเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวเพื่อการปฏิรูปการศึกษากันอย่างกว้างขวางในช่วง 4 - 5 ปีหลังจากนี้ วิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2540 ได้ทำให้ประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงปรากฏว่านอกจากนักศึกษาแล้ว ยังได้มีนักคิดจากวงการอื่นที่หันมาให้ความสนใจการศึกษาและเสนอแนะแนวคิดต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ในที่นี้ผู้เขียนได้ประมวลแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนมานำเสนอจำนวน กระบวนการ กระบวนการเหล่านี้แม้จะยังไม่ได้รับการนำไปทดลองใช้ และทดสอบ พิสูจน์อย่างเป็นระบบ แต่ก็เป็นกระบวนการที่ได้รับความสนใจจากวงการการศึกษาไทยเป็นอย่างมากกระบวนการดังกล่าว ได้แก่
       
 3.1 กระบวนการแก้ปัญหาตามหลักอริยสัจ โดยสาโรช บัวศรี



              เป็นผู้ที่ริเริ่มจุดประกายความคิดในการนำหลักพุทธธรรมมาใช้ในการเรียนการสอน นานกว่า20 ปีแล้ว โดยการประยุกต์หลักอริยสัจ4 ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค มาใช้ในกระบวนการการแก้ปัญหา ท่านได้เสนอแนะการสอนกระบวนการแก้ปัญหาไว้เป็นขั้นตอน ดังนี้
1.ขั้นกำหนดปัญหา(ทุกข์)
2.ขั้นตั้งสมมติฐาน(สมุทัย)
3.ขั้นทดลองและเก็บข้อมูล(นิโรธ)
4.ขั้นวิเคราะห็ข้อมูลและสรุปผล(มรรค)
        
 3.2 กระบวนการกัลยาณมิตร โดย สุมน อมรวิวัฒน์
           ได้อธิบายกระบวนการกัลยาณมิตรไว้ว่า เป็นกระบวนการสานสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเพื่อจุดมุ่งหมาย ประการ1.ชี้ทางบรรเทาทุกข์ 2.ชี้สุขเกษมศานติ์ กระบวนการกัลยาณมิตรใช้หลักการที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นหลักที่ช่วยในการให้คนพ้นทุกข์ได้ คือ หลักอริยสัจ4มาใช้ควบคู่กับหลักกัลยาณมิตรธรรม7 ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งมีกระบวนการหรือขั้นตอน ขั้น ดังนี้
1.หาสร้างความไว้ใจตามหลักกัลยาณมิตรธรรม7
2.การกำหนดและจับประเด็นปัญหา(ขั้นทุกข์)
3.การร่วมกันคิดวิเคราะห์เหตุของปัญหา(ขั้นสมุทัย)
4.การจัดลำดับความเข้มของระดับปัญหา(ขั้นสมุทัย)
5.การกำหนดจุดหมายหรือสภาวะพ้นปัญหา(ขั้นนิโรธ)
6.การร่วมกันคิดวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการแก้ปัญหา(ขั้นนิโรธ)
7.การจัดลำดับจุดหมายของภาวะพ้นปัญหา(ขั้นนิโรธ)
8.การปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาตามแนวทางที่ถูกต้อง(ขั้นมรรค)
        
 3.3 กระบวนการทางปัญญา โดย ประเวศ วะสี



           นักคิดคนสำคัญของประเทศไทย ผู้มีบทบาทอย่างมากในการกระตุ้นให้เกิดการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งได้เสนอกระบวนการทางปัญญา ซึ่งควรฝึกฝนให้แก่ผู้เรียนประกอบด้วย10ขั้น ดังนี้
1.ฝึกสังเกต ให้ผู้เรียนมีโอกาสในการสังเกตสิ่งต่างๆให้มาก
2.ฝึกบันทึก
3.ฝึกการนำเสนอต่อที่ประชุม
4.ฝึกการฟัง
5.ฝึกปุจฉา-วิสัชนา  ให้ผู้เรียนฝึกการถาม-การตอบ
6.ฝึกตั้งสมมติฐานและการตั้งคำถาม
7.ฝึกการค้นหาคำตอบ
8.ฝึกการวิจัย  การวิจัยเป็นกระบวนการหาคำตอบที่จะช่วยให้ผู้เรียนค้นพบความรู้ใหม่
9.ฝึกการเชื่อมโยงบูรณาการ
10.ฝึกการเขียนเรียบเรียงทางวิชาการ
         
3.4 กระบวนการคิด โดย ชัยอนันต์ สมุทวณิช



            นักคิดผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทย ซึ่งหันมาสนใจและพัฒนางานทางด้านการศึกษาอย่างจริงจัง ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการคิดไว้ว่า การคิดของคนเรามีหลายรูปแบบ ซึ่งได้ยกตัวอย่างมา4แบบ และได้อธิบายลักษณะของนักคิดทั้ง4แบบไว้   ดังนี้
1.การคิดแบบนักวิเคราะห์ (analyticalผู้สอนสามารถช่วยผู้เรียนให้พัฒนาความสามารถในการคิดแบบนี้ได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนแสวงหาข้อเท็จจริง(fact) ดูตรรกะ(logic) ทิศทาง(direction) หาเหตุผล(reason) และมุ่งแก้ปัญหา(problem-solving)
2.การคิดแบบรวบยอด (conceptual) ผู้สอนสามารถช่วยผู้เรียนให้พัฒนาความสามารถในการคิดแบบนี้ได้โดยการฝึกให้ผู้เรียนคิดวาดภาพในสมองสร้างความคิดใหม่จากข้อมูลที่ถูกต้องแน่นอน หรือมองข้อมูลเดิมในแง่มุมใหม่ละส่งเสริมให้ผู้เรียนกล้าคิด กล้าทำ
3.การคิดแบบโครงสร้าง (structural thinking) การฝึกให้ผู้เรียนแยกแยะส่วนประกอบ ศึกษาส่วนประกอบ และเชื่อมโยงข้อมูล จัดเป็นโครงสร้างจะทำให้ผู้เรียนมีการคิดอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินว่า ควรจะทำอะไรอย่างไร

4.การคิดแบบผู้นำสังคม (social thinking) การฝึกให้ผู้เรียนปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับผู้อื่น ทำตนเป็นผู้อำนวยความสะดวก(facilitator) ฝึกทักษะกระบวนการทำงานร่วมกันเป็นทีม(group process) และฝึกให้คิด3ด้าน เรียกว่า “PMI” คือ ด้านบวก(plus) ด้านลบ(minus) และด้านที่ไม่เป็นลบหรือบวก แต่เป็นด้านที่สนใจ(interesting)

 3.5 มิติการคิดและกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดย ทิศนา แขมมณี และคณะ
           ได้ศึกษาค้นคว้าและจัดมิติของการคิดไว้ 6 ด้าน ดังนี้
1.มิติด้านข้อมูลหรือเนื้อหาที่ใช้ในการคิด
2.มิติด้านคุณสมบัติที่เอื้ออำนวยต่อการคิด
3.มิติด้านทักษะการคิด หมายถึง กระบวนการหรือขั้นตอนที่บุคคลใช้ในการคิด
4.มิติด้านลักษณะการคิด เป็นประเภทของการคิดที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งมีความเป็นนามธรรมสูง จำเป็นต้องมีการตีความให้เห็นเป็นรูปธรรม
5.มิติด้านกระบวนการคิด เป็นการคิดที่ประกอบไปด้วยขั้นตอนหลายขั้นตอนที่จะนำไปสู่เป้าหมายของการคิด
6.มิติด้านการควบคุมและประเมินการคิดของตน (metacognition) เป็นกระบวนการที่บุคคลใช้ในการควบคุมกำกับการรู้คิดของตนเอง

กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
         เพื่อให้ได้ความคิดที่รอบคอบสมเหตุสมผล ผ่านการพิจารณาปัจจัยรอบด้านอย่างกว้างขวาง ลึกซึ้ง และผ่านการพิจารณากลั่นกลอง ไตร่ตรอง ทั้งทางด้านคุณ-โทษและคุณค่าที่แท้จริงของสิ่งนั้นแล้ว

3.6 กระบวนการคิด โดย เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์



          นักคิดคนสำคัญของประเทศ ได้อภิปรายไว้ว่า หากเราต้องการให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปและไม่เสียเปรียบ ต้องฝึกให้คนไทยคิดให้เป็น คือรู้จักวิธีการคิดที่ถูกต้อง โดยท่านเสนอแนะวิธีการคิด 10มิติ ให้กับคนไทย ดังนี้
มิติที่1ความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์(critical thinking) สามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นได้โดยฝึกให้ผู้เรียนท้าทายและโตแย้งสมมติฐาน
มิติที่2ความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์(analytical thinking) พัฒนาโดยการฝึกให้ผู้เรียนสืบค้นข้อเท็จจริง
มิติที่3ความสามารถในการคิดเชิงสังเคราะห์(synthesis thinking) ฝึกเพื่อให้ผู้เรียนรวมองค์ประกอบที่แยกส่วนกันมารวมกันได้
มิติที่4ความสามารถในการคิดเชิงเปรียบเทียบ(comparative thinking) ฝึกให้ผู้เรียนค้นหาความเหมือนหรือแตกต่างกันของ 2 สิ่งขึ้นไป
มิติที่5ความสามารถในการคิดเชิงมโนทัศน์(conceptual thinking) ฝึกการนำข้อมูลทั้งหมดมาประสานกันและสร้างเป็นกรอบความคิดใหม่
มิติที่6ความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์(creative thinking) ให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบ
มิติที่7ความสามารถในการคิดเชิงประยุกต์(applicative thinking) ฝึกให้ผู้เรียนนำสิ่งที่มีอยู่ไปประยุกต์ใช้
มิติที่8ความสามารถในการคิดเชิงกลยุทธ์(strategic thinking) ฝึกให้ผู้เรียนกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรมที่ดีที่สุดภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
มิติที่9ความสามารถในการคิดเชิงบูรณาการ(integrative thinking) ฝึกให้ผู้เรียนเชื่อมโยงเรื่องในแง่มุมต่างๆเข้ากับเรื่องได้อย่างเหมาะสม
มิติที่10ความสามารถในการคิดเชิงอนาคต(futuristic thinking) ฝึกให้ผู้เรียนคาดการณ์และประมาณการการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

3.7 กระบวนการสอนค่านิยมและจริยธรรม โดย โกวิท ประวาลพฤกษ์



            ได้เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาค่านิยมและจริยธรรมไว้ว่า ควรเริ่มต้นด้วยการพัฒนาเหตุผลเชิงจริยธรรมและดำเนินการสอนตามขั้นตอน ดังนี้
1.กำหนดพฤติกรรมทางจริยธรรมที่พึงปรารถนา
2.เสนอตัวอย่างพฤติกรรมในปัจจุบัน
3.ประเมินปัญหาเชิงจริยธรรม
4.แลกเปลี่ยนผลการประเมิน
5.ฝึกพฤติกรรมโดยมีผลสำเร็จ
6.เพิ่มระดับความขัดแย้ง
7.ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง

8.กระตุ้นให้ผู้เรียนยอมรับตัวเอง


3.8 กระบวนการต่าง ๆ โดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ
         3.8.1 ทักษะกระบวนการ ขั้น
1.ตระหนักในปัญหาและความจำเป็น
2.คิดวิเคราะห์วิจารณ์
3.สร้างทางเลือกให้หลากหลาย
4.ประเมินและเลือกทางเลือก
5.กำหนดและลำดับขั้นการปฏิบัติ
6.ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
7.ประเมินระหว่างปฏิบัติ
8.ปรับปรุงให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
9.ประเมินผลรวมเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจ
        3.8.2 กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด
1.สังเกต
2.จำแนกความต่าง
3.หาลักษณะร่วม
4.ระบุชื่อความคิดรวบยอด
5.ทดสอบและนำไปใช้
        3.8.3 กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ
1.สังเกต
2.อธิบาย
3.รับฟัง
4.เชื่อมโยงความสัมพันธ์
5.วิจารณ์
6.สรุป
        3.8.4 กระบวนการแก้ปัญหา
1.สังเกต
2.วิเคราะห์
3.สร้างทางเลือก
4.เก็บข้อมูลประเมินทางเลือก
5.สรุป
       3.8.5 กระบวนการสร้างความตระหนัก
1.สังเกต
2.วิจารณ์
3.สรุป
       3.8.6 กระบวนการปฏิบัติ
1.สังเกตรับรู้
2.ทำตามแบบ
3.ทำเองโดยไม่มีแบบ
4.ฝึกให้ชำนาญ

      3.8.7 กระบวนการคณิตศาสตร์
มี วิธีการ คือ 1.สอนทักษะทางคิดคำนวณ มีขั้นตอนย่อยได้แก่ สร้างความคิดรวบยอดของคำ นิยามศัพท์  ฝึกการวินิจฉัย ปรับปรุงแก้ไข   2.การสอนทักษะแก้โจทย์ปัญหา มีขันตอนย่อย ได้แก่ แปลโจทย์ในเชิงภาษา หาวิธีแก้โจทย์ปัญหา วางแผน ปฏิบัติตามขั้นตอน และตรวจสอบคำถาม
      3.8.8 กระบวนการเรียนภาษา
1.ทำความเข้าใจสัญลักษณ์ สื่อ รูปภาพ รูปแบบเครื่องหมาย
2.สร้างความคิดรวบยอด
3.สื่อความหมาย ความคิด
4.พัฒนาความสามารถ
     3.8.9 กระบวนการกลุ่ม
1.มีผู้นำกลุ่ม
2.วางแผนกำหนดจุดประสงค์และวิธีการ
3.รับฟังความคิดเห็นจากกลุ่ม
4.แบ่งหน้าที่รับผิดชอบ
5.ติดตามผลการปฏิบัติและปรับปรุง
6.ประเมินผลรวมและชื่นชมในผลงานของกลุ่ม
     3.8.10 กระบวนการสร้างเจตคติ
1.สังเกต
2.วิเคราะห์
3.สรุป
     3.8.11 กระบวนการสร้างค่านิยม
1.สังเกต ตระหนัก
2.ประเมินเชิงเหตุผล
3.กำหนดค่านิยม
4.วางแผนปฏิบัติ
5.ปฏิบัติด้วยความชื่นชม
     3.8.12 กระบวนการเรียนรู้ความเข้าใจ
1.สังเกต ตระหนัก
2.วางแผนปฏิบัติ
3.ลงมือปฏิบัติ
4.พัฒนาความรู้ความเข้าใจ
5.สรุป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น